ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา มีหนึ่งในแบรนด์น้ำหอมที่คนไทยเป็นเจ้าของกำลังได้รับความนิยม และเป็นที่พูดถึงเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะเป็นน้ำหอมที่มีกลิ่นหอมและคุณภาพไม่แพ้น้ำหอมแบรนด์ดังระดับโลก การได้นักปรุงน้ำหอมระดับ Master มาปรุงน้ำหอมให้ ในขณะที่มีราคาที่ทุกคนยังสามารถเข้าถึงได้ ไปจนถึงประสบการณ์หน้าร้านที่ทุกคนได้รับเมื่อมาลองน้ำหอม นั่นก็คือ น้ำหอม Mith และ น้ำหอม Proad ครับ
ในบทความนี้ MenDetails โชคดีมีโอกาสได้นั่งพูดคุยกับคุณพอ – จุติณัฏฐ์ ปิยวีรวงศ์ เจ้าของแบรนด์ Mith และ Proad ที่หาตัวจับยากคนนี้ ถึงเรื่องที่มาของแบรนด์ เป้าหมายในการพาแบรนด์ไประดับโลก และเรื่องราวต่าง ๆ เกี่ยวกับน้ำหอมที่ชายคนนี้อยากแนะนำทุกคนครับ
ที่มาของ น้ำหอม Mith
“สวัสดีครับ ผมชื่อจุติณัฏฐ์ ปิยวีรวงศ์” คุณพอแนะนำตัวอย่างเรียบง่าย ก่อนจะเริ่มตอบคำถามเกี่ยวกับประสบการณ์ที่ผ่านมาของตัวเองก่อนจะมาเริ่มทำแบรนด์น้ำหอมว่า ตั้งแต่เล็ก ๆ คุณพอรู้ว่าสิ่งที่ชอบคือศิลปะ เวลาเรียนวิชาศิลปะก็จะโดดเด่นกว่าเพื่อน ทำให้เขาตัดสินใจเลือกเรียนสายศิลปะ จนมาสอบเข้าเป็นนักออกแบบภายใน
“งานสุดท้ายผมไปออกแบบบ้านเศรษฐีคนหนึ่ง เขาชอบงานผมมาก พอทำบ้านเสร็จเขาอยากมีกลิ่นในบ้าน เราเลยไปศึกษาดูว่าทำยังไง แล้วลองทำกลิ่นง่าย ๆ แบบไม่ได้เรียนมาก่อน ทำแล้วเขาชอบเขาเลยใช้กลิ่นนั้นในบ้าน ตอนนั้นผมเกิดความคิดที่ต้องหาธุรกิจหลักที่ยั่งยืน เลยมองว่าเราชอบกลิ่นหอม มาทำเรื่องน้ำหอมดีกว่า จากตอนแรกทำน้ำหอมในบ้านเพื่อตกผลึกว่าเราจะไปแนวทางไหน จนมีคนแนะนำให้ทำน้ำหอม ที่ตลาดใหญ่กว่า ใกล้ตัวกว่า เราเลยเลือกหันมาศึกษาน้ำหอมจริงจัง” คุณพอเล่าเรื่องราวจุดเริ่มต้นอย่างรวบรัด
ศึกษาแนวทาง พัฒนาจนเป็น Mith และยึดมั่นในการขายความจริงให้ลูกค้า
เมื่อตัดสินใจได้ว่าจะเข้าสู่ธุรกิจน้ำหอม คุณพอเลยเริ่มศึกษาหาที่เรียนว่าที่ไหนมีสอน ก่อนที่จะมีคนรู้จักที่เป็น Partner เป็นบ้านปรุงน้ำหอมเล็ก ๆ ในอังกฤษแนะนำให้มาเรียนคอร์ส 1 เดือนที่นั่น เพราะการจะทำธุรกิจน้ำหอมคุณพอต้องเข้าใจศัพท์ต่าง ๆ เพื่อให้สามารถสั่งน้ำหอมไปจนถึงวัตถุดิบได้ถูกต้อง จึงเป็นจุดต้นของการบินไปเรียน ซึ่งการเรียนก็จะเรียนตั้งแต่ทฤษฎีไปจนถึงเรื่องการผสมสารทางเคมีหลาย ๆ อย่าง
แต่ด้วยเวลาที่น้อยทำให้คุณพอมองว่าถึงเรียนจบก็ยังไม่สามารถปรุงน้ำหอมเองได้ หรือถ้าทำได้ก็ไม่มีอะไรรับประกันว่าจะสำเร็จ หากจะเรียนจริงจังต้องใช้ทั้งเงินและเวลามากเกินไป จึงตัดสินใจบอก Partner ว่าหน้าที่ในการปรุงน้ำหอมให้แบรนด์เป็นหน้าที่ของ Partner ส่วนคุณพอจะมุ่งหน้าในการสร้างแบรนด์ ทำธุรกิจ สื่อสารกับผู้บริโภค เมื่อกำหนดบทบาทหน้าที่ชัดเจนว่าใครทำอะไร จึงทำให้แบรนด์สามารถก้าวเดินได้อย่างรวดเร็ว เกิดเป็น Mith
หนึ่งในเป้าหมายของคุณพอในการทำแบรนด์น้ำหอม คือ อยากให้คนไทยได้ใช้น้ำหอมดี ๆ จึงขายในราคาที่สมเหตุสมผล เป็นของดีในราคาที่ไม่เกินเอื้อม ทำให้ได้ผลตอบรับที่ดี ธุรกิจเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ เกินไปกว่าที่คุณพอคิดฝันไว้มาก โดยคุณพอบอกว่าสิ่งหนึ่งที่ทำให้ Mith มาไกลขนาดนี้ เพราะเขายึดมั่นในการขาย “ความจริง” ให้กับลูกค้า
“มีพี่ที่ผมนับถือคนหนึ่งเขาช่วยฝึกเรื่องการทำธุรกิจในแง่มุมต่าง ๆ ให้กับผม แต่สิ่งหนึ่งที่เขาสอนผม คือ ถ้าคุณจะทำธุรกิจให้ยั่งยืน สิ่งแรกที่ต้องทำคือ ความจริง ในสินค้าตัวหนึ่งเราต้องยื่นความจริงให้ลูกค้า ไม่โกหกผู้บริโภค ทั้งในเรื่องความจริงใจ ราคาที่ดีสมเหตุสมผล เราไม่ต้องมีเรื่องราวอะไรมากหรอก เพราะผู้บริโภคสมัยนี้หลอกไม่ง่าย ถ้าเราทำสิ่งที่จริงตลาดจะรู้เอง ส่วนจะซื้อไม่ซื้อก็เป็นเรื่องของลูกค้า”
นอกจากความจริงที่ต้องสื่อสารกับลูกค้า เรื่องการบริการคุณพอก็ให้ความสำคัญเช่นกัน คุณพอบอกว่า ลูกค้ามาที่ร้านเขาจะรู้หรือไม่ซื้อไม่เป็นไร แต่เขาต้องเดินออกจากร้านเราไปด้วยความสุข ความประทับใจ เพราะถ้าเขาเดินออกไปด้วยความไม่ประทับใจ ในอนาคตเราอย่าหวังที่จะเห็นลูกค้าคนนี้เดินกลับมาอีก
เป้าหมายในอนาคตของ น้ำหอม Mith
เมื่อแบรนด์ Mith กับ Proad เติบโตจนเป็นที่รู้จักทั้งในไทยและต่างประเทศ มีกลิ่นขายดีและได้รับความนิยมหลายกลิ่น ก็ถือว่าประสบความสำเร็จในระดับหนึ่งแล้ว แต่เมื่อถามถึงเป้าหมายในอนาคตต่อจากนี้ คุณพอบอกเราว่ายังมีอะไรสนุก ๆ ให้ทำอีกมากมาย และยังเล่าว่าตัวเขาชอบน้ำหอมแบรนด์ Frédéric Malle มาก ที่สามารถไปรวบรวมนักปรุงน้ำหอมระดับโลกมาทำงานให้กับเขา สร้างแบรนด์ที่แข็งแรงได้ ถือเป็นแรงบันดาลใจของคุณพอที่อยากให้แบรนด์เป็นแบบนั้นบ้าง เพื่อให้คนไทยได้ใช้น้ำหอมที่ปรุงโดยนักปรุงคนนี้ที่ไม่เคยมีแบรนด์ไทยทำได้มาก่อน
“เลยเกิดเป็นโปรเจ็คขึ้นมาอันนึง ในปีที่แล้วที่แบรนด์ครบรอบ 6 ปี ด้วยความกล้าเลยติดต่อทางต่างประเทศไปเพื่อขอ Nathalie Lorson ที่เป็น Master Perfumer ระดับโลกมาทำงานให้เรา หลังจากที่เราแนะนำตัวไปหลังจากเขาพิจารณาแล้วเราได้ Nathalie มาทำงานให้ กลายเป็นกลิ่น Silver Sparkle กลายเป็นกลิ่นที่พลิกวงการน้ำหอมไทย เป็นกลิ่นที่ขายดีมากและยังทำให้คนรู้ว่าน้ำหอมไทยเจ๋งที่ไปเอาคนระดับนี้มาทำน้ำหอมให้”
แม้จะได้นักปรุงระดับโลกมาทำน้ำหอมให้ แต่คุณพอก็ยังยึดมั่นว่าจะไม่ขึ้นราคาน้ำหอม แม้จะมีคนถามว่าจะอยู่ได้ไหม แต่เขาก็บอกกับเราว่าอยู่ได้ เพราะเขาเชื่อว่าเอากำไรน้อยลงหน่อย แต่เป็นกำไรลูกค้าที่ได้ใช้ของดีในราคาไม่แพง แต่ปรุงโดยคนที่เก่งที่สุดที่คุณพอหามาได้ “เมื่อลูกค้าซื้อของเขารู้สึกว่ามันเกินราคาที่เขาจ่าย ผมว่านั่นแหละคือความสำเร็จ เกิดการบอกต่อจนเราไม่ต้องโปรโมต ทำให้ Mith สำเร็จได้”
น้ำหอมที่อยากแนะนำ
หลังจากที่รู้เรื่องราวและเป้าหมายของคุณพอ เกี่ยวกับแบรนด์น้ำหอมของตัวเองไปแล้ว เราก็ขอให้คุณพอช่วยแนะนำน้ำหอมของ Mith กับ Proad ที่เขาชื่นชอบให้กับเราสักนิด ว่ามีกลิ่นไหนที่เขาอยากแนะนำเป็นพิเศษบ้าง
ซึ่งคุณพอก็ได้แนะนำมาหลายตัว ไม่ว่าจะเป็น Cherry Syrup น้ำหอม Best Seller ของแบรนด์ Proad ที่ให้กลิ่นหอมหวานของเชอรี่กับเหล้ารัม ถัดมาคือ Silver Sparkle ที่ได้ Master Perfumer อย่าง Nathalie Lorson มาปรุงให้ Woody Musk ของ Quentin Bisch ก็เป็นน้ำหอมตัวใหม่ที่คุณพอชื่อชอบฝีมือในการปรุงน้ำหอมของนักปรุงคนนี้เป็นพิเศษจึงอยากได้มาร่วมงานด้วย นอกจากนั้นก็มี Rose of Male Planet จากนักปรุงคนเดียวกันที่นำเสนอกลิ่นของกุหลาบสำหรับผู้ชายได้อย่างเผ็ดร้อน และกลิ่นอื่น ๆ อีกมากมายที่คุณพอบอกว่าอยากให้มาลองที่หน้าร้านด้วยตัวเองว่าชอบไม่ชอบ และเพื่อให้พนักงานสามารถแนะนำได้
ก่อนจะจบการพูดคุยกันในครั้งนี้ เราถามทิ้งท้ายว่าการที่ผู้ชายจะเลือกซื้อน้ำหอมสักขวด สำหรับคุณพอคิดว่าต้องเตรียมอะไรหรือมีวิธีการเลือกซื้ออย่างไรบ้าง ซึ่งคุณพอตอบไว้ว่า “ในมุมมองผม น้ำหอมไม่มีผิดไม่มีถูก คุณไม่ต้องเตรียมอะไรมาเลย แค่เปิดใจ ไม่ว่าจะมาแบรนด์ผมหรือแบรนด์ไหนก็ตาม คุณต้องเปิดใจก่อน คุณอาจจะได้รับสิ่งตามหาหรือไม่ก็ได้ คุณไม่ได้ผิดและแบรนด์ไม่ได้ผิด มันเป็นเรื่องของความชอบของแต่ละคน คุณแค่ต้องเปิดใจ ถ้าวันนี้ยังไม่ใช่ อนาคตอาจจะมีสิ่งที่ใช่สำหรับคุณก็ได้”
ถือว่าเป็นการสนทนาที่ทำให้เราได้เห็นมุมมองต่าง ๆ จากคุณพอ – จุติณัฏฐ์ ปิยวีรวงศ์ เจ้าของแบรนด์ Mith และ Proad ได้อย่างน่าสนใจทีเดียวครับ ซึ่งคุณพอก็แอบเกริ่นไว้ว่าคิวน้ำหอมออกตอนนี้ยาวถึงปีหน้า ใครที่กำลังมองหาน้ำหอมใหม่ ๆ หากมีโอกาสก็แวะมาลองที่หน้าร้านของ Mith หรือจะสั่งทางหน้าร้านออนไลน์ก็ได้ครับ นอกจากน้ำหอมใหม่แล้วคุณพอยังวางแผนจะออกแบรนด์ใหม่เพิ่มมาอีกด้วย จะมี Concept เป็นอย่างไรนั้นก็ต้องรอติดตามครับ